โดยหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษทั่วไป คำว่า "Shall" จะใช้กับประธานที่เป็นสรรพนามคำว่า "I" หรือ "We" แต่ในภาษาอังกฤษทางกฏหมายนั้น คำว่า "Shall"ถือเป็นลักษณะพิเศษ โดยจะนำมาใช้ในสัญญาหรือบทกฏหมายโดยไม่จำกัดว่า
ประธานจะเป็นสรรพนามคำว่า "I" หรือ "We" หรือไม่ และจะมีความหมายที่เป็นอนาคตในเชิงบังคับในลักษณะที่คล้ายกับคำว่า "must" โดยจะแปลว่า "จะต้อง" หรือ "ให้......(ทำอย่างนั้น/อย่างนี้ " เช่น
The Seller shall deliver the products hereunder to the Buyer at the factory of the Buyer.
The Buyer shall have the right to inspect the products which are delivered by the Seller at the Buyers's factory.
อย่างไรก็ดี คำว่า "must" ก็ยังคงสามารถนำมาใช้ในสัญญาได้ เช่น ในกรณีของขอสัญญาบางข้อซึ่งมิได้เป็นเรื่องที่คู่สัญญาต้องปฎิบัติต่อกัน แต่เป็นหน้าที่ที่คู่สัญญาต้องปฏิบัติตามกฎหมายเยู่แล้ว เช่น การเสียภาษีอากร เป็นต้น ก็สามารถใช้คำว่า must ได้ เช่น
Each party hereto must be responsible for any tax imposed by the law on their respective incomes.
The Seller shall deliver the products hereunder to the Buyer at the factory of the Buyer.
The Buyer shall have the right to inspect the products which are delivered by the Seller at the Buyers's factory.
อย่างไรก็ดี คำว่า "must" ก็ยังคงสามารถนำมาใช้ในสัญญาได้ เช่น ในกรณีของขอสัญญาบางข้อซึ่งมิได้เป็นเรื่องที่คู่สัญญาต้องปฎิบัติต่อกัน แต่เป็นหน้าที่ที่คู่สัญญาต้องปฏิบัติตามกฎหมายเยู่แล้ว เช่น การเสียภาษีอากร เป็นต้น ก็สามารถใช้คำว่า must ได้ เช่น
Each party hereto must be responsible for any tax imposed by the law on their respective incomes.
---
บทความนี้จัดทำโดยบริษัทควอลิเจนซ์ เซอร์วิส จำกัด ผู้ให้บริการแปลเอกสารสำหรับธุรกิจชั้นนำของเมืองไทย
No comments:
Post a Comment